คอนโดที่สุดแห่งปี 2554

คอนโดที่สุดแห่งปี 2554

อีกไม่กี่ชั่วโมง เราก็จะก้าวเข้าสู่ปี 2555 แล้วนะครับ  ดังนั้นวันนี้ผมเลยขอทบทวนเรื่องราวเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมทั้งหมดที่เปิดตัวและสร้างเสร็จในปี 2554 โดยขอจัดเป็นรางวัล “คอนโดที่สุดแห่งปี”

คอนโดที่ฮอตที่สุดแห่งปี : Noble Ploenchit

คอนโดที่ฮอตที่สุดแห่งปี  ผมขอยกให้กับ Noble Ploenchit ของ Noble Development ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 9 ไร่ ใจกลางเมืองเพลินจิต โดยสามารถทำยอดขายภายในวันแรกได้ถึง 7,000 ล้านบาท  ซึ่งเป็นคอนโดที่ทั้งคนในวงการอสังหาริมทรัพย์หรือคนที่ไม่เคยสนใจเรื่องอสังหาริมทรัพย์เลย ก็ยังคงรู้จักโครงการนี้ดี โดยอาจจะพบเห็นตามโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้า  โฆษณาทีวี โฆษณาวิทยุ และป้ายโฆษณาตามทางด่วน  

คอนโดที่หรูที่สุดแห่งปี : The Residences at The St.Regis Bangkok

คอนโดที่หรูที่สุดแห่งปี ผมขอยกให้ The Residences at The St.Regis Bangkok คอนโดที่ตั้งอยู่บนโรงแรม St.Regis เพรียบพร้อมด้วย facilities และ service ระดับโรงแรม 6 ดาว ในราคาเกิน 200,000 บาท/ตรม และยังเป็น lease hold 30 ปีอีกด้วย  ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 325 ตารางเมตร  ส่วนราคาก็เริ่มต้นเพียงแค่ 69,000,000 บาทเท่านั้นเอง

penthouse ที่สุดแห่งปี : penthouse ของ Sukhothai Residences

Penthouse ที่สุดแห่งปี  ผมขอยกให้ penthouse 400,000,000 บาท บนคอนโดมิเนียม Sukhothai Residences ที่ตั้งอยู่หลังโรงแรม 5 ดาว ระดับโลก อย่างโรงแรมสุโขทัยบนถนนสาทร  โดยภายใน penthouse มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 1,200 ตารางเมตร และยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวและระเบียงขนาดใหญ่ 

  

developer ที่สุดแห่งปี : Pace Development

Developer ที่สุดแห่งปี  ผมขอยกให้ Pace Development เจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมระดับ high-end อย่าง Saladaeng Residences และ The Ritz Carlton Residences  โดยโครงการ Saladaeng Residences ที่สร้างเสร็จในปีนี้และได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามทั้งการออกแบบ ตกแต่ง การเลือกใช้วัสดุที่ดี  ตั้งแต่กระจกบานใหญ่จากพื้นจรดเพดานสูง 3 เมตร พื้นหินนำเข้า ชุดครัว built-in ของ Siemens และสระว่ายน้ำที่ปูด้วยหินธรรมชาติทั้งหมด

  

คอนโดที่สวยที่สุดแห่งปี : Hansar Residence

คอนโดที่สวยที่สุดแห่งปี  ผมขอยกให้ Hansar Residence ในซอยมหาดเล็กหลวง 2 ถนนราชดำริ  ตึกที่ได้รับการออกแบบจากบริษัทออกแบบชื่อดัง WOHA ที่ได้เคยออกแบบตึกสวยๆหลายตึกให้กรุงเทพมามากมาย เช่น The Met Sathorn, Morph 38, The Pano, Via49

 Sole Agent ที่สุดแห่งปี : CB Richard Ellis

Sole Agent ที่สุดแห่งปี  ผมขอยกให้ CB Richard Ellis หรือ CBRE ที่ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็น sole agent ของโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูต่างๆ มากมาย เช่น Royce Private Residences, Saladaeng Residences, Q Langsuan, The Marvel Residence, Oriental Residence, Sukhothai Residences

โปรโมชั่นคอนโด Rhythm จาก AP

14-15 มกราคมนี้ AP มอบข้อเสนอสุดพิเศษต้อนรับปี 2555 "ฟรี เงินทำสัญญา พร้อมรับ iPhone 4S เมื่อจองในงาน" สำหรับคอนโดแบรนด์ Rhythm 3 ทำเล
- Rhythm สุขุมวิท 44/1  คอนโดบนถนนสุขุมวิท เพียง 1 ก้าว จาก BTS พระโขนง  เริ่ม 3.85 ล้านบาท
- Rhythm พหล-อารีย์  คอนโดบนถนนพหลโยธิน ห่างจาก BTS สะพานควาย 500 เมตร  เริ่ม 3.2 ล้านบาท
- Rhythm สาทร  คอนโดวิวแม่น้ำ บนถนนสาทร ห่างจาก BTS สะพานตากสิน 200 เมตร  เริ่ม 3.2 ล้านบาท

เตรียมพบกับรีวิวของ Condolette Dwell เร็วๆนี้

รีวิวโครงการต่อไปของทาง BKK CONDOMINIUM คือโครงการ Condolette Dwell สุขุมวิท 26 ของทางพฤกษา  ซึ่งได้ทำการเปิดตัวโครงการมาเมื่อเดือนที่แล้ว  และวันนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชม sales office และห้องตัวอย่างมา  แล้วจะเขียนรีวิวมาให้ชมกันได้ที่นี่ เร็วๆนี้ครับ

คอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทตอนกลาง

ครั้งก่อนผมได้เขียนเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมย่านราชดำริและหลังสวนไปแล้วนะครับ ครั้งนี้ผมจะมาเขียนเกี่ยวกับย่านที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นหนึ่งในย่านที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดของกรุงเทพ นั่นคือ สุขุมวิท

เนื่องจากสุขุมวิทเป็นถนนที่ยาวมาก ผมจึงขอแบ่งออกเป็น 3 โซน ดังนี้ครับ

- สุขุมวิทตอนต้น ตั้งแต่สุขุมวิทซอย 1 ถึงถนนอโศก

- สุขุมวิทตอนกลาง ตั้งแต่อโศกถึงเอกมัย

- สุขุมวิทตอนปลาย ตั้งแต่เอกมัยเป็นต้นไป

        คำว่า “ย่านสุขุมวิท” ที่เราพูดกัน มักจะหมายถึงสุขุมวิทตอนต้นกับตอนกลางเท่านั้น ส่วนสุขุมวิทตอนปลายก็จะเรียกตามซอยหรือเขตก็ว่ากันไป เช่น พระโขนง อ่อนนุช บางนา

        สุขุมวิทตอนกลาง ในฝั่งซอยเลขคี่ เริ่มตั้งแต่ถนนอโศกมนตรี(สุขุมวิท 21) ไปจนถึงเอกมัย(สุขุมวิท 63)  ส่วนฝั่งเลขคู่ เริ่มตั้งแต่ถนนรัชดาไปจนถึงสุขุมวิท 42

        ผู้มีชื่อเสียง นักการเมือง นักธุรกิจและผู้บริหารระดับสูง หลายท่านก็อาศัยอยู่ในย่านสุขุมวิท เช่น

- นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ 

- นายไพบูลย์  ดำรงชัยธรรม (อากู๋ แกรมมี่)

- นายพายัพ  ชินวัตร

- นายถกลเกียรติ  วีรวรรณ

- ตระกูลโอสถานุเคราะห์

- ตระกูลล่ำซำ

- ตระกูลนานา

- ตระกูลมาลีนนท์

- ตระกูลศรีวิกรม์

        สำหรับในส่วนของห้างสรรพสินค้า  คอมมิวนิตี้ มอลล์  ร้านอาคารและส่วนของ retail space ในย่านนี้ ก็มีแทบทุกซอกทุกมุม  สำหรับห้างสรรพสินค้าที่โด่งดังและเด่นที่สุดในย่านนี้ คือ Emporium  

        ส่วนคอมมิวนิตี้ มอลล์และ retail space อื่นๆ ก็เช่น J Avenue, Market Place, Fifty Fifth Plaza, Eight Thonglor, Arena 10, Grass Thonglor, Penny’s Balcony, Park Lane, Third Place, Major Sukhumvit, Bangkok Mediplex, K Village, 49 Terrace, Noble Remix

        สำหรับสถานศึกษาในย่านนี้ มีทั้งโรงเรียนรัฐและเอกชน  แต่ส่วนมากจะเป็น international school ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง

        สำหรับโรงแรมและ serviced apartment ในย่านนี้ก็จะไม่ค่อยมีที่เป็นระดับ 5 ดาวจริงๆ สักเท่าไหร่ เพราะโรงแรมหรู 5 ดาวระดับโลก มักไปอยู่แถวราชดำริ เพลินจิต และก็ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น St.Regis, Four Seasons, InterContinental, Mandarin Oriental, Peninsula, Shangri-la

        สำหรับการเดินทาง พื้นที่ในย่านนี้เป็นซอยเล็กซอยใหญ่เต็มไปหมด สามารถทะลุกันได้หมด โดยไม่ต้องออกถนนใหญ่ อย่างถ้าขับรถมาจากเอกมัย ขับลัดเลาะตามซอยไปเรื่อยๆ ก็สามารถออกไปอโศกได้เลย โดยไม่ต้องออกถนนสุขุมวิทหรือเพชรบุรี และก็ยังมีรถไฟฟ้าผ่านถึง 4 สถานี คือ อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ และเอกมัย

        และในส่วนของพื้นที่สีเขียว ย่านนี้ไม่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ยักษ์อย่าง RBSC หรือสวนลุมพินีที่ตั้งอยู่บริเวณย่านราชดำริและหลังสวน  จะมีสวนก็คือสวนเบญจสิริ ซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก  แต่ในย่านนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านคน บ้านหลังใหญ่ๆ ก็จะมีต้นไม้ปลูกเต็มไปหมด ก็สามารถเป็นพื้นที่สีเขียวได้เช่นกัน

        หลังจากที่พูดเรื่องทำเลที่ตั้งมาพอสมควรแล้ว  ผมขอกลับมาพูดเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมในย่านนี้บ้าง

        คอนโดมิเนียมในย่านนี้มีตั้งแต่ราคาต่อตารางเมตร ไม่ถึง 100,000 ไปจนทะลุ 200,000 บาท 

        คอนโดในย่านนี้มีทั้ง low rise และ high rise  มีทั้งคอนโดเก่ามากจนถึงคอนโดที่เปิดตัวในปัจจุบัน คอนโดในย่านนี้มีการเปิดตัวมาเรื่อยๆ เพราะพื้นที่ย่านนี้ยังมีเป็นที่ว่างอยู่มากไม่เหมือนราชดำริและหลังสวนที่ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ประโยชน์หมดแล้ว

        สำหรับราคาคอนโดในย่านนี้ถ้าเป็น low rise ในซอยลึกๆที่เปิดตัวใหม่ ไม่ถึง 100,000 บาท/ตรม ก็ยังมี เช่น Siamese Gioia, Siamese Sukhumvit 39 แต่ถ้าเป็น high rise โครงการใหม่ๆ ไม่ว่าจะลึกเท่าไหร่ ก็มักจะ 100,000 up แล้วทั้งนั้น  ยิ่งถ้าใกล้รถไฟฟ้าโครงการใหม่ๆ ก็ 130,000 up ครับ

        ผมขอยกตัวอย่างราคาคอนโดในย่านนี้ให้นะครับ

- Quattro by Sansiri เริ่มต้นที่ 15x,xxx บาท/ตรม

- Le Raffine Sukhumvit 39 เริ่มต้นที่ 17x,xxx บาท/ตรม

- The Address Sukhumvit 28 เริ่มต้นที่ 14x,xxx บาท/ตรม

- Aequa Sukhumvit 49 เริ่มต้นที่ 15x,xxx บาท/ตรม

- Ivy Thonglor เริ่มต้นที่ 13x,xxx บาท/ตรม

- Noble Remix 2 เริ่มต้นที่ 12x,xxx บาท/ตรม

- Keyne by Sansiri เริ่มต้นที่ 15x,xxx บาท/ตรม

- The Address Sukhumvit 61 เริ่มต้นที่ 14x,xxx บาท/ตรม

- Royce Private Residences เริ่มต้นที่ 13x,xxx บาท/ตรม

- Eight Thonglor เริ่มต้นที่ 12x,xxx บาท/ตรม

- Mode Sukhumvit 61 เริ่มต้นที่ 13x,xxx บาท/ตรม

- The Alcove Thonglor 10 เริ่มต้นที่ 11x,xxx บาท/ตรม

- D25 Thonglor เริ่มต้นที่ 10x,xxx บาท/ตรม

- Voque Sukhumvit 31 เริ่มต้นที่ 9x,xxx บาท/ตรม

- Siamese Gioia เริ่มต้นที่ 8x,xxx บาท/ตรม

- Bright Sukhumvit 24 เริ่มต้นที่ 11x,xxx บาท/ตรม

        นี่เป็นราคาคร่าวๆ เท่านั้นนะครับ ซึ่งปัจจุบัน ทางโครงการอาจมีการลดราคาหรือปรับราคาขึ้น ถ้าใครทราบราคาที่แน่นอนก็เข้ามา comment ไว้ได้นะครับ  

        สำหรับราคา โครงการที่เปิดตัวใหม่มักจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะ ราคาที่ดินสูงขึ้นเรื่อยๆ ค่าก่อสร้าง ค่าวัสดุ อะไรต่างๆก็สูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ดินของ Noble Remix ทางโนเบิลได้ซื้อมาเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ในราคาตารางวาละ 300,000 บาท และเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางแสนสิริได้ซื้อที่ดินข้างๆ Noble Remix ซึ่งคือที่ดินของ Keyne by Sansiri มาในราคาตารางวาละ 700,000 กว่าบาท

        สำหรับคอนโดในย่านนี้ สามารถทำได้ทั้งลงทุนเก็งกำไร และอยู่อาศัยเอง  ซึ่งกลุ่มลูกค้าก็มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น  ดังนั้นคอนโดในสุขุมวิทจึงเป็นอีกหนึ่งย่านที่น่าสนใจ เหมาะทั้งลงทุน เก็งกำไร ปล่อยเช่า และอยู่อาศัยเองครับ

โปรโมชั่นพิเศษของทาง Levo Ladprao 18

Levo Condo Ladprao 18 จัดโปรโมชั้นพิเศษ 2 วันสุดท้าย 17-18 ธันวาคมนี้  รับส่วนลดพิเศษ 100,000 บาท  ราคาเริ่มต้นที่ 1.8 ล้านบาท

Levo Condo Ladprao 18 เป็นคอนโดมิเนียมของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น จำนวน 129 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 งาน 46 ตารางวา ภายในซอยลาดพร้าว 18  ห่างจาก MRT ลาดพร้าวประมาณ 500 เมตร

โปรโมชั่นพิเศษของทาง The Crest Phahonyothin 11

SC ASSET จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับโครงการ The Crest พหลโยธิน 11 คอนโดมิเนียมที่ให้ความเป็นส่วนตัวเพียง 2-8 ยูนิตต่อชั้นและ single corridor  ฟรี fully furnished  เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท

17-18 ธันวาคมนี้ Exclusive Preview Special 2 Bedrooms เริ่มต้น 4.99 ล้านบาท

The Crest Phahonyothin 11 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 30 ชั้น จำนวน 163 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 1-2-84 ไร่ ภายในซอยพหลโยธิน 11 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถทะลุไปยังถนนพระราม 6, ถนนประดิพัทธิ์ และซอยอารีย์ได้  ห่างจาก BTS สะพานควาย และ BTS อารีย์ประมาณ 1.2 กิโลเมตร  ขนาดห้องตั้งแต่ 43.07-113.42 ตารางเมตร  ราคา 3.9-12 ล้านบาท

The Crest Sukhumvit 49 : Grand Opening

SC ASSET จัดงาน Grand Opening โครงการ The Crest สุขุมวิท 49 ในวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ ที่สำนักงานขายโครงการซอยสุขุมวิท 24 (ติดกับคอนโด Siri Residence)  รับโปรโมชั่นพิเศษ
- ส่วนลดสูงสุดถึง 200,000 บาท
- ชุดเครื่องใช้ไฟฟ้า
- X'Mas Gift 20,000 บาท
และฟรี fully furnished
ราคาเริ่มต้นที่ 4.29 ล้านบาท

The Crest Sukhumvit 49 เป็นคอนโดแบรนด์ premium ที่สุดของ SC ASSET เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น จำนวน 88 ยูนิต  ขนาด 33.50-71.40 ตรม  ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49/2  ราคาเริ่มต้นที่ 4.29 ล้านบาท หรือประมาณตารางเมตรละ 128,000 บาท

โปรโมชั่นพิเศษจาก Oriental Residence

Oriental Residence จัดโปรโมชั่นพิเศษ "Exclusive Festive Promotions" ในวันที่ 17 และ 18 ธันวาคมนี้  ทุกห้องราคาเดียว และฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี  พิเศษสำหรับ 5 ยูนิตเท่านั้น

Oriental Residence เป็นคอนโดมิเนียม leasehold 30 ปี (สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า leasehold คืออะไร  ผมเคยอธิบายคร่าวๆ ไว้ในบทความเรื่อง คอนโดมิเนียมย่านราชดำริและหลังสวน ไว้แล้วครับ)  ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ   อยู่ระหว่างบ้านพักของทูตอเมริกากับสถานทูตเนเธอร์แลนด์  ทำให้ได้วิวค่อนข้างเคลียร์ คาดว่าไม่น่าจะมีการสร้างตึกสูงขึ้นมาบังในระยะประชิด  โดยตึกจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ Serviced Residence  145 ยูนิต และคอนโดมิเนียม 46 ยูนิต  โดยผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมจะได้รับ facilities และ service เทียบเท่ากับผู้ที่อยู่อาศัยใน Serviced Residence เลยครับ  สำหรับราคาของโครงการนี้จะเริ่มต้นที่ประมาณ 170,000 บาท/ตรม ครับ

ขอเชิญร่วมงาน X'Mas Party ที่ Star View

ทางบริษัท Eastern Star ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน X'Mas Party @ Star View คอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยาบนถนนพระราม 3  ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคมนี้  พิเศษ จองในงานรับ Surprise Gift โปรโมชั่นสุดคุ้มแห่งปี  เริ่มต้นเพียง 62,300 บาท/ตรม

สำหรับโครงการ Star View เป็นโครงการคอนโดมิเนียมบนถนนพระราม 3 ใกล้กับสะพานพระราม 9  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ 25 ตารางวา เป็นอาคารคอนโดมิเนียมสูง 2 อาคาร 44 ชั้นและ 54 ชั้น  จำนวนทั้งหมด 556 ยูนิต

ผมว่าจุดขายของคอนโดนี้ที่เด่นชัดที่สุดคือ facilities เพราะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ยาวเกือบ 100 เมตร บนชั้น 44 ที่เปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา  มีฟิตเนส, สตีม, สวน, สนามเทนนิส, สนามบาสเก็ตบอล และพื้นที่อเนกประสงค์  มีที่จอดรถเกิน 100% และ private lift ทุกยูนิต  ซึ่งระบบ private lift ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับคอนโดมิเนียมในประเทศไทย เพราะมีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ใช้  แต่ก็มีการใช้ในคอนโดมิเนียมหลายแห่งแล้ว  เช่น The Park ชิดลม, Noble เพลินจิต, Hansar Residence, The Met สาทร, Sukhothai Residences, Royce Residences

คอนโดมิเนียมย่านราชดำริและหลังสวน

เนื่องจากมีหลายท่านเข้ามาถามผมว่า คอนโดมิเนียมในย่านต่างๆ มีราคาเท่าไหร่  เน้นจับกลุ่มลูกค้าประเภทใด  และในแต่ละย่านมีข้อดีข้อเสียอย่างไร วันนี้ผมเลยจะมาสรุปเจาะลึกเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมในย่านต่างๆของกรุงเทพ  โดยวันนี้ขอเริ่มที่ย่านราชดำริและหลังสวนก่อน และวันต่อๆไป จะมาเขียนเกี่ยวกับย่านอื่นๆ เช่น เพลินจิต ร่วมฤดี พญาไท ราชเทวี พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย สีลม สาทร กรุงธนบุรี อารีย์ ลาดพร้าว

ย่านราชดำริและหลังสวน ถือเป็นย่านที่ราคาคอนโดมิเนียมสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเลยก็ว่าได้ ด้วยราคาสูงสุดเกือบ 400,000 บาทต่อตารางเมตรที่โครงการ 185 Rajadamri ของ Raimon Land

ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้คอนโดมิเนียมในย่านนี้มีราคาสูง ส่วนหนึ่งมาจากราคาที่ดิน  เนื่องจากถนนราชดำริและหลังสวน  ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครแวดล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ได้แก่ RBSC (Royal Bangkok Sport Club) และสวนลุมพินี ทำให้คอนโดมิเนียมในย่านราชดำริและหลังสวนได้วิวทั้งพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่และวิวเมืองอยู่เป็นฉากหลัง

ย่านราชดำริและหลังสวน แวดล้อมด้วยโรงแรมต่างๆ เช่น Centara Grand at Central World, InterContinental, Grand Hyatt Erawan, Renaissance, St.Regis, Hansar, Grande Centre Point, Four Seasons, Holiday Inn, Hotel Muse เรียกว่ามีมากจนนับไม่ถ้วนเลยครับ  และโรงแรมในบริเวณนี้ก็ไม่ใช่โรงแรมไก่กาที่ไหน ส่วนมากเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ทั้งนั้นเลยครับ

ในส่วนของห้างสรรพสินค้าในระแวกนี้คงไม่ต้องพูดถึง เพราะบริเวณแยกราชประสงค์ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านการค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพเลยก็ว่าได้ เช่น Central World รวมไปถึง Zen และ Isetan, Gaysorn Plaza, Amarin Plaza, Central Chidlom, Erawan Bangkok และ community mall ก็เช่น The Portico บนถนนหลังสวน 

แต่ข้อเสียนิดนึงเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าและ retail space ในย่านราชดำริและหลังสวน คือ ไม่ค่อยมี community mall หรือสถานที่ที่จับกลุ่มลูกค้าเฉพาะผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้น  เพราะห้างส่วนใหญ่ เช่น Central World ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในสีลม สุขุมวิท สาทร ลาดพร้าว รัชดา บางกะปิ หรือที่ใดก็แล้วแต่  ทุกคนก็เคยมาเดินที่ Central World กันหมด  ต่างจากย่านสุขุมวิทที่มี community mall ที่จับกลุ่มลูกค้าเฉพาะย่านนั้นๆ เช่น J Avenue, Market Place

ถนนราชดำริ นับเป็นถนนที่ถือว่ารถติดค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับถนนอื่นๆ เช่น สาทร วิทยุ เพลินจิต พระราม 1  แต่อาจจะมีติดในช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน บริเวณแยกราชประสงค์และแยกศาลาแดง

ถนนหลังสวน เป็นถนน one way คือรถจะวิ่งจากถนนเพลินจิตไปจนถึงถนนสารสิน  ด้วยความที่เป็นถนน one way ทำให้ถนนหลังสวนเข้าออกยากลำบากนิดนึงเพราะต้องเข้าจากทางเพลินจิตเท่านั้น แต่ถ้ามาจากถนนราชดำริ ก็สามารถทะลุผ่านซอยมหาดเล็กหลวง 3 มายังถนนหลังสวนได้เหมือนกัน

หลังจากพูดเกี่ยวกับทำเลที่ตั้งมานาน  ผมขอกลับมาพูดเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมในย่านนี้กันบ้าง

คอนโดมิเนียมในย่านราชดำริและหลังสวนมีทั้งคอนโดมิเนียมแบบ leasehold และ freehold  ผมขออธิบายคร่าวๆของทั้งสองแบบดังนี้

Leasehold คือ สิทธิในการเช่า ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้จะไม่ได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ตนซื้อ  และเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้ซื้อก็จะต้องคืนอสังหาริมทรัพย์นั้นให้กับเจ้าของ  โดยในประเทศไทยคงไม่คุ้นเกี่ยวกับอสังหาประเภทนี้นัก แต่ผู้คนในต่างประเทศ เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา คงเข้าใจเป็นอย่างดี

คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะเป็นแบบ freehold จะมีเฉพาะบางแห่งที่เป็น leasehold เช่น ราชดำริ เพราะที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  ซึ่งทางสำนักงานทรัพย์สินจะไม่ขายขาด แต่จะให้เช่า โดยส่วนใหญ่จะนิยมให้เช่า 30 ปี  ทำให้คอนโดมิเนียมบางแห่งเป็นคอนโด leasehold 30 ปี เช่น The Residences at The St.Regis Bangkok, Hansar Residence, The Ratchadamri, Baan Rajprasong, The Grand Ratchadamri, The Royal Place หมายความว่าผู้ซื้อจะสามารถอยู่ได้ 30 ปี  เมื่อหมดสัญญาเช่า ทางนิติบุคคลจะต้องตัดสินใจว่าจะต่อสัญญาเช่าหรือไม่  ถ้าต่อสัญญาก็จะต้องเสียค่าเช่าเพิ่มเติม

ส่วนคอนโดมิเนียมประเภท freehold คือ ผู้ซื้อจะได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์ที่ตนซื้อไป ซึ่งก็เหมือนกับคอนโดทั่วๆไปในประเทศไทยครับ  คอนโดในย่านนี้ที่เป็น freehold ก็เช่น 185 Rajadamri, Baan Ratchadamri, Q Langsuan, Grand Langsuan, Langsuan Ville

ราคาคอนโดมิเนียมในย่านนี้ ถ้าเป็นโครงการ leasehold จะเริ่มต้นที่ 100,000 บาท/ตรม เป็นอย่างต่ำ  ส่วนโครงการ freehold ที่เปิดใหม่อย่าง 185 Rajadamri และ Q Langsuan ก็จะเริ่มต้นที่ประมาณ 180,000 บาท/ตรม ขึ้นไปครับ  และไปสูงสุดที่เกือบๆ 400,000 บาท/ตรม สำหรับห้อง penthouse ของโครงการ 185 Rajadamri

คอนโดมิเนียมในย่านนี้ จึงมักเป็นโครงการระดับ high-end ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบน เนื่องจากตลาดระดับบนเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มากนัก ประกอบกับคอนโดโครงการใหม่ๆก็ยังมีห้องเหลืออยู่อีกมาก คอนโดในย่านนี้จึงไม่เหมาะแก่การลุงทุนเท่าไหร่นัก แต่เหมาะสำหรับอยู่อาศัยเองมากกว่าครับ

โปรโมชั่นพิเศษจาก Blocs 77

แสนสิริ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ Blocs 77 คอนโดมิเนียมบนถนนอ่อนนุช(สุขุมวิท 77)  ใกล้ BTS อ่อนนุช (ห่างจาก BTS อ่อนนุช ประมาณ 600 เมตร)  ตอบรับนโยบายบ้านหลังแรก  รับเงินคืนสูงสุดถึง 100,000 บาท และรับเพิ่มฟรี ค่าสวนกลาง 1 ปี และเงินกองทุน  เมื่อจองและโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 15 ธันวาคม 2554

The Issara Ladprao

The Issara Ladprao

ชื่อโครงการ   The Issara Ladprao

ที่ตั้งโครงการ   ถนนลาดพร้าว ห่างจาก MRT ลาดพร้าวประมาณ 400 เมตร

เนื้อที่โครงการ   4-3-54 ไร่

จำนวนยูนิต   561 ยูนิต

ลักษณะโครงการ   คอนโดมิเนียมสูง 47 ชั้น 1 อาคาร 

ลักษณะห้องชุด   studio, 1-3 ห้องนอน, duplex และ penthouse

ราคา   90,000+ บาท/ตารางเมตร

  

LOCATION

The Issara Ladprao ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว ระหว่างซอยลาดพร้าว 12 กับซอยลาดพร้าว 14  ห่างจาก MRT ลาดพร้าวประมาณ 400 เมตร

The Issara Ladprao คือกรอบสีแดงนะครับ

The Issara Ladprao อยู่ตรงข้ามกับ HomePro และ BigC eXtra  ใกล้กับ Central ลาดพร้าว และ Union Mall

เดิมตรงนี้เคยเป็น sales office ของ The Issara Ladprao มาก่อน  แต่ตอนนี้ sales office ย้ายไปอยู่ที่ lobby  ตรงนี้เลยมาเปิดเป็นร้านกาแฟครับ

เรื่องทำเล ผมว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบย่านนี้ เรียนหรือทำงานอยู่ในระแวกนี้  แต่สำหรับคนที่ทำงานหรือเรียนในเมือง เช่น สีลม ถ้าคิดว่าจะซื้อที่นี่แล้วขับรถหรือนั่งรถไฟฟ้าไป  ผมว่ายังมีอีกหลายโครงการที่ใกล้เมืองกว่านี้และราคาประมาณนี้ครับ

  

  

UNITS

The Issara Ladprao มีทั้งหมด 561 ยูนิต แบ่งเป็น

- studio ขนาด 34.20 ตรม

- 1 ห้องนอน ขนาด 34.20 - 52.25 ตรม

- 2 ห้องนอน ขนาด 52.25 – 78.88 ตรม

- 3 ห้องนอน ขนาด 138.80 ตรม

- Duplex ขนาด 339.96 ตรม

- Penthouse ขนาด 647 ตรม

เนื่องจาก floor plan ของแต่ละชั้นจะไม่เหมือนกันนะครับ จะมีระเบียงใหญ่บ้าง เล็กบ้าง  ห้องยื่นออกมาบ้าง หุบเข้าไปบ้าง  ดังนั้นผมเลยขอยก floor plan ของชั้น 18 มาพูดสักนิดนึงครับ

โดยเฉลี่ยในแต่ละชั้นของที่นี่จะมีจำนวนยูนิตประมาณ 10 กว่ายูนิต มีลิฟต์ให้ทั้งหมด 6 ตัว เป็นลิฟต์โดยสารสำหรับ low zone คือชั้น 6-29 จำนวน 3 ตัว, ลิฟต์โดยสารสำหรับ high zone คือชั้น 30-47 จำนวน 2 ตัว และลิฟต์บริการอีก 1 ตัวครับ

ผมขอยกตัวอย่างห้อง 1 ห้องนอนที่มีมากที่สุดในตึก นั่นคือ ขนาด 52.25 ตรม มาพูดสักนิดนึงนะครับ

นี่คือ 1 ห้องนอน ขนาด 52.25 ตรม ครับ  เปิดเข้ามาจะเจอครัวทางขวามือ ซึ่งดูแล้วเล็กไปนิดนึงเมื่อเทียบกับขนาดห้อง  อย่างน้อยก็ควรจะทำเป็นรูปตัว L ให้ใหญ่ขึ้น  ต่อมาจะเจอในส่วนของ dining และ living ซึ่งระยะระหว่างโซฟากับทีวก็จัดออกมาได้กว้างพอสมควรครับ และถัดไปจะเป็นระเบียง ซึ่งต้องชื่นชมว่าที่นี่ให้ระเบียงค่อนข้างใหญ่เลยครับ

ถัดมาในส่วนของห้องนอนสามารถวางเตียง king size ได้สบายๆ และยังสามารถวางทีวีหรือโต๊ะเขียนหนังสือได้อย่างสบายๆอีกด้วยครับ  ห้องน้ำก็กว้างขวางดี มีอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์, shower และ bathtub ให้ครับ  แต่ข้อเสียของห้องนอนมีอยู่นิดนึง คือ ไม่สามารถทำตู้เสื้อผ้าเป็น walk in closet ได้ครับ

เดิมโครงการจะมีแค่แอร์ ชุดครัว และชุด built-in ให้เท่านั้น แต่ตอนนี้โครงการมีโปรโมชั่นแถมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้  ซึ่งมีหลายชิ้นและรายละเอียดยิบย่อยมากครับ  เลยอยากให้ทุกท่านลองเข้าไปดูเอง

ทั้งนี้ผมขออนุญาตนำรูปของลูกบ้านที่โพสลงในเว็บ prakard.com มาให้ดูคร่าวๆนะครับ ว่าวัสดุภายในห้องเป็นอย่างไร

พื้นที่ให้เป็นกระเบื้องยางลายไม้ ซึ่งคอนโดราคานี้ไม่น่าให้วัสดุนี้ อย่างน้อยก็ควรจะเป็นพื้นลามิเนตครับ ผมขอแนะนำสำหรับคนที่ซื้อโครงการนี้ว่า ให้รื้อพื้นออกแล้วควรเปลี่ยนเป็นพื้นลามิเนตหรือถ้ามีงบสูงก็เปลี่ยนเป็นวีเนียร์ไปเลยครับ

ชุดครัวที่ให้จะมีแค่ตู้กับ sink ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีแค่ hood กับเตา (ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นของ Franke ครับ)  แต่จะเจาะช่องไว้ให้สำหรับวางตู้เย็น, เครื่องซักผ้า และไมโครเวฟไว้ให้ครับ

แอร์เป็นแอร์แบบ wall type ของ Daikin ครับ  ระยะ floor to ceiling อยู่ที่ 2.6 เมตรครับ  และสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในห้องของโครงการนี้คือ กระจกที่สูงจากพื้นจรดเพดานครับ

ภายในห้องน้ำ ถ้าจำไม่ผิดก็อกน้ำเป็นของ VRH ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นของ Cotto ครับ  ดูโดยรวมแล้วคิดว่าการออกแบบสุขภัณฑ์ในห้องน้ำยังไม่ล้ำพอสำหรับโครงการราคานี้ครับ

ห้องที่นำมาให้ดูไม่มีเฟอร์นิเจอร์นะครับ  ส่วนของทางโครงการจะแถมเฟอร์นิเจอร์ให้ครับ ส่วนเฟอร์นิเจอร์จะหน้าตาเป็นอย่างไรอยากให้ไปดูที่โครงการเองครับ

เอารูปวิวจากห้องตัวอย่างชั้น 29 มาฝากครับ ห้องนี้หันไปทางทิศเหนือครับ

ส่วนห้องนี้หันมาทางทิศใต้จะเห็นวิวเมืองอยู่ไกลๆครับ

  

  

FACILITIES

ล็อบบี้ออกแบบมาได้สวยงามดีครับ  มีกระจกสูงบานใหญ่และเพดานก็สูงมากครับ

นี่เป็นที่นั่งภายในฟิตเนส ซึ่งอยู่บนชั้น 4 ครับ

พื้นที่ในส่วนของฟิตเนสทั้งหมดมีขนาดใหญ่ถึง 500 ตรม เลยครับ โดยจะประกอบไปด้วยส่วนของห้องออกกำลังกาย พื้นที่สำหรับโยคะหรือแอโรบิค ห้องน้ำ ล็อกเกอร์ และห้องสตีม

สระว่ายน้ำแบบ infinity-edged บนชั้น 6 ครับ (sales บอกว่ากว้าง 8 เมตร ยาว 25 เมตรครับ)

สวนและ landscape บริเวณทางเข้าโครงการครับ

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับจัดงานปาร์ตี้ ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณของสระว่ายน้ำบนชั้น 6 ครับ

  

PRICE

ราคาที่ผมได้มาเป็นราคาเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2554 ของห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 51.90 ตรม ราคาหลังจากหักส่วนลดแล้วอยู่ที่ 4,723,410 บาท  คิดเป็นตารางเมตรละ 91,010 บาท  โดยแบ่งเป็น

- จอง 0.11% คือ 5,000 บาท

- ทำสัญญา 5% คือ 236,171 บาท

- ผ่อนดาวน์ 5% คือ 236,171 บาท

- โอนกรรมสิทธิ์ 89.89% คือ 4,246,067 บาท

ราคานี้ก็ไม่ได้ถูกหรือแพงจนเกินไป แต่เมื่อลองคิดดูแล้วในราคานี้ หากเพิ่มเงินอีกสักนิดนึงก็อาจจะได้โครงการที่ใกล้รถไฟฟ้ามากขึ้น ทำเลที่ดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนครับ ว่าชอบทำเลแบบไหน มี lifestyle เป็นอย่างไร

แต่สิ่งที่ผมคิดว่าคุ้มที่สุดหากท่านซื้อโครงการนี้ คือความสวยงามในงานสถาปัตยกรรมของตึกที่ได้รับการออกแบบโดย ดวงฤทธิ์ บุนนาค  รวมไปถึงการออกแบบภายในและ landscape ที่สวยงาม โดยไม่ต้องเว่อร์ ไม่ต้องเยอะ แค่เรียบๆง่ายๆ เลือกที่จะใช้แสง สี และวัสดุที่ลงตัว  ทุกอย่างก็ออกมาสวยงามและดูดีได้

โครงการคอนโดมิเนียมในระแวกนี้ก็เช่น Life@Ladprao 18, Ideo Ladprao 5, Ideo Ladprao 17, M Ladprao, Equinox Phahol-Vibha

สำหรับคนที่ชอบย่านนี้ The Issara เป็นโครงการหนึ่งให้คุณเลือก แต่อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกโครงการหนึ่งที่ชื่อ “The Issara” หรือเปล่า

โปรโมชั่นพิเศษของทาง M Project

Major Development จัดโปรโมชั่นพิเศษส่งท้ายปี  สำหรับ M Project 3 โครงการ  ได้แก่ M Silom, M Phyathai และ M Ladprao  ฟรีเฟอร์นิเจอร์มูลค่าสูงสุดถึง 900,000 บาท และ Gift Voucher จาก iStudio มูลค่าสูงสุดถึง 50,000 บาท  สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ลงทะเบียนเท่านั้น  ตั้งแต่วันนี้ - 15 ธันวาคม 2555